ตามที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ให้ความสนใจในนวัตกรรมด้านพลังงานนั้น กลุ่มบริษัท WHAUP ได้สานต่อความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้บันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการพัฒนาพลังงาน SMART Energy และระบบไมโครกริดร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและพัฒนาระบบพลังงานให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้นภายในนิคมอุตสาหกรรม โดยโครงการแรกที่ได้รับอนุมัติการดําเนินงานในปี 2564 คือระบบการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกัน (Peer-to-Peer Energy Trading system) ซึ่งจะช่วยเอื้อการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ระหว่างกันของผู้ใช้แต่ละรายในนิคมอุตสาหกรรม นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมีความร่วมมือกับบริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และบริษัท เซอร์ทิส จํากัด (SERTIS) โดยได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อ ตกลงความร่วมมือการพัฒนาระบบ Smart Energy Platform เพื่อศึกษาและพัฒนา “ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะด้วยดิจิทัล” (Smart Energy Platform) สําหรับการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ โดยใช้เทคโนโลยีบล็อก เชน (Block chain) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยในการทําธุรกรรมและอํานวยความสะดวกการซื้อขายพลังงานระหว่างผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อยกับผู้ใช้พลังงาน อีกทั้ง ระบบดังกล่าวยังได้รับการคัดเลือกให้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นําเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการพลังงาน (Energy RegulatoryCommission Sandbox : ERC Sandbox) จัดโดยคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงานร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นโครงการนําร่องเพื่อศึกษาการซื้อขายไฟฟ้า รองรับโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กไม่ผ่านระบบจําหน่าย (Micro Grid) เพื่อขยายผลการใช้งานไปยังพื้นที่อุตสาหกรรม ทําให้เกิดการบริหารจัดการการใช้พลังงานทางเลือกอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ทั้งนี้ เมื่อดําเนินการอย่างเต็มระบบจะทําให้มีพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นภายในนิคมอุตสาหกรรมอย่างน้อย 200 เมกะวัตต์ และ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมแต่ละรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ต่อปี รวมถึงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ ถึง 4,300,000 ตันจนกระทั่งสิ้นสุดโครงการ