ด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ

การสนับสนุนสถาบันและสมาคมทางธุรกิจต่างๆ

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ กลุ่มบริษัท (“ กลุ่มบริษัท”) มุ่งมั่นที่จะสร้างการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน และพัฒนาธุรกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือกับองค์กร สมาคมการค้า องค์กรของรัฐและองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการดำเนินการดังกล่าว กลุ่มบริษัท ได้ยึดมั่นในความโปร่งใส ภายใต้การกำกับดูแลกิจการและจริยธรรมที่ดี กลุ่มบริษัทมิได้ให้การสนับสนุนเพื่อชี้นำองค์กรใด หรือเป็นผู้แทนที่มีส่วนได้เสียทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค หรือการรณรงค์หาเสียง ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง การเมืองระดับชาติ และอื่นๆ (การใช้จ่ายเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียง การลงประชามติ ฯลฯ)

ทั้งนี้ในปี 2567 กลุ่มบริษัท ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยได้นำไปเชื่อมโยงบูรณาการองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ใน การดำเนินธุรกิจ กลุ่มบริษัท จึงได้สนับสนุนและผลักดันนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ UN Global Compact

รายละเอียดเพิ่มเติม https://unglobalcompact.org/what-is-gc/participants/156095-WHA-Corporation-Public-Company-Limited

ลำดับ รายชื่อสมาคม/องค์กร จำนวนเงินสนับสนุน (บาท)
ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
1 หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) 535,000 535,000 535,000 535,000
2 สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย (BCCT) 214,000 214,000 214,000 214,000
3 ข้อตกลงแห่งสหประชาติ (UNGC) - - 175,000 175,000
4 หอการค้าออสเตรเลีย - ไทย(AustCham Thailand) 160,500 160,500 160,500 160,500
5 สมาคมนิคมอุตสาหกรรมไทยและพันธมิตร (TISA) 90,000 90,000 90,000 90,000
6 หอการค้าญี่ปุ่น - กรุงเทพฯ (JCC) 57,600 57,600 57,600 57,600
7 หอการค้าฝรั่งเศส - ไทย(FTCC) 31,565 31,565 31,565 31,565
8 สมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) 25,680 25,680 51,360 51,360
9 หอการค้าเบลเยียม - ลักเซมเบอร์ก/ไทย(BeLuThai) - 29,960 - -
10 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(FTI) 22,568 22,568 22,568 22,568
11 หอการค้าเยอรมันไทย(GTCC) 16,050 16,050 16,050 16,050
12 หอการค้าไทย - อิตาเลียน(TICC) 14,552 14,552 14,552 14,552
13 หอการค้านิวซีแลนด์ - ไทย (NZTCC) - 10,700 13,375 13,375
14 หอการค้ามาเลเซีย - ไทย (MTCC) 10,000 - 10,000 -
15 หอการค้าไทย - แอฟริกาใต้(SATCC) 9,630 10,700 10,700 10,700
16 หอการค้าสิงคโปร์ - ไทย(STCC) - 8,560 - -
17 หอการค้าไทย(TCC) 12,840 2,140 2,140 2,140
18 สภาธุรกิจไทย - เวียดนาม (TVBC) 3,000 3,000 - -
19 หอการค้าไทย - จีน (Thai CC) - - - -
20 หอการค้าเดนมาร์ก - ไทย(DTCC) 18,191 18,190 18,191 -
21 สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี - - - -
22 สมาคมการค้าไทย - ยุโรป - 53,500 - -
23 สภาอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง 4,280 - - -
24 สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย(TAPMA) - - -
25 สมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย (TPVA Thailand) 2,000 2,000 2,000 2,000
26 สถาบันน้ำ และสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน (WEIS) - - - -
27 เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) - - - -
28 กลุ่มพันธมิตรด้านการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน แห่งประเทศไทย (TCCA) - - - -
29 สมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) - - - 6,000
รายละเอียด จำนวนเงินสนับสนุน (บาท)
ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
Lobbying interest representation or similar - - - -
Local, regional, or national political campaigns/ organizations/ candidates - - - -
Trade associations or tax-exempt groups (e.g. think tanks) 1,227,456 1,306,265 1,424,601 1,402,410
Other (e.g. spending related to ballot measures or referendums) - - - -
Total contributions and other spending 1,227,456 1,306,265 1,424,601 1,402,410
Data coverage (% of revenue) 100% 100% 100% 100%

องค์กรที่กลุ่มบริษัทให้การสนับสนุนสูงสุดในปี 2567

ชื่อองค์กร จำนวนเงินสนับสนุน ปี 2567 (บาท)
หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM Thailand)
องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการค้า ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ในการสนับสนุนการค้าและ การลงทุนระหว่างสหรัฐฯ และไทย พร้อมส่งเสริมแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม อย่างยั่งยืนควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม
535,000
สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย (BCCT)
สภาหอการค้าจากประเทศยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียมีภารกิจเพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจของอังกฤษในประเทศไทย และสนับสนุนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยตรงในฐานะของ พันธมิตรที่ยั่งยืน โดยมีกิจกรรมที่ครอบคลุมงานด้านนโยบาย เศรษฐกิจ การเจรจาธุรกิจ และเสริมสร้างเครือข่าย รวมถึงโครงการสำคัญอย่าง Eastern Economic Corridor International Business Awards เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และบริษัทที่ตั้งอยู่ใน นิคมอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกของประเทศไทย
214,000
ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC)
โครงการระดับโลกที่ส่งเสริมองค์กรธุรกิจในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมบนพื้นฐานของความสมัครใจโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้องค์กรและบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบหลักการ 10 ข้อ (Ten Principles) ที่แบ่งออกเป็น 4 ด้านสำคัญ คือด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights)ด้านมาตรฐานแรงงาน (Labour Standards)ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (Anti-Corruption) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals SDGs) ของสหประชาชาติ
175,000

ในปีงบประมาณ 2567 กลุ่มบริษัท ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่องค์กรต่างๆ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการชี้นำและผลักดันนโยบายสาธารณะในประเด็นที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การสนับสนุนความยั่งยืนด้านน้ำในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) (90,000 บาท)

กลุ่มบริษัท ได้สนับสนุนเงินจำนวน 90,000 บาท ผ่านความร่วมมือกับ สมาคมพันธมิตรนิคมอุตสาหกรรมไทยและคู่ค้า (TIESPA) และ สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน (WEIS) การสนับสนุนนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อผลักดันนโยบายที่สร้างความมั่นคงด้านแหล่งน้ำให้กับภาคอุตสาหกรรมในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมการใช้น้ำจากแหล่งน้ำที่มีความยั่งยืนจากจังหวัดจันทบุรีเพื่อเสริมปริมาณน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นอกเหนือจากการสร้างความมั่นคงด้านปริมาณแล้ว การสนับสนุนนี้ยังมุ่งส่งเสริมให้เกิดการอภิปรายและกำหนด โครงสร้างค่าน้ำที่ เป็นธรรมและโปร่งใส ทั้งสำหรับผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

2. การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและนโยบายการซื้อขายไฟฟ้า (P2P Energy Trading) (24,000 บาท)

ในฐานะสมาชิกของ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย (TPVA) กลุ่มบริษัทได้ร่วมสนับสนุนเงินจำนวน 24,000 บาท เพื่อการรณรงค์และผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการสร้างสภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบที่เอื้อให้เกิด การซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างผู้ใช้แต่ละรายภายในนิคมอุตสาหกรรมกันเองได้อย่างเสรี (Peer-to-Peer Energy Trading)

การสนับสนุนนี้ยังรวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น “ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะด้วยดิจิทัล” (Smart Energy Platform) ซึ่งใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำธุรกรรม และอำนวยความสะดวกในการซื้อขายพลังงานระหว่างผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อยกับผู้ใช้พลังงานโดยตรง ความสำเร็จในการผลักดันนโยบายดังกล่าวจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของพลังงานสะอาดในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานและส่งเสริมความยั่งยืนให้กับกลุ่มลูกค้าของกลุ่มบริษัทควบคู่กันไป

การให้การสนับสนุนดังกล่าวเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบริษัท ในการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของกลุ่มบริษัท ลูกค้า สังคม และ ผู้มีส่วนได้เสียโดยรวม

จุดยืนของกลุ่มบริษัทต่อสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจในการปรับแนวทางด้านสภาพภูมิอากาศ

คำแถลงจุดยืน (Statement of Position)

กลุ่มบริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม โดยสอดคล้องกับเป้าหมายของความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการจำกัดภาวะโลกร้อน กลุ่มบริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2593 แม้ว่ากลุ่มบริษัทจะไม่มีการดำเนินกิจกรรมด้านการล็อบบี้ (Lobbying Activity) แต่กลุ่มบริษัทได้ร่วมมืออย่างแข็งขันกับสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์สำคัญร่วมกัน ความมุ่งมั่นนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของกลยุทธ์และได้นำไปปฏิบัติในทุกกลุ่มธุรกิจของกลุ่มบริษัท

กรอบการกำกับดูแลสำหรับการมีส่วนร่วมเชิงนโยบายสาธารณะ (Governance Framework for Public Policy Engagement)

เพื่อให้การมีส่วนร่วมกับเครือข่ายภายนอกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มบริษัทสนับสนุนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศที่ก้าวหน้าผ่านการเป็นสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจที่สำคัญ โดยตระหนักดีว่าการมีส่วนร่วมของกลุ่มบริษัทในสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจเหล่านี้เป็นความสามารถที่สำคัญซึ่งดำเนินควบคู่ไปกับการจัดการภายในและกลยุทธ์การดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลกไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ดังนั้น กลุ่มบริษัทจึงได้จัดตั้งโครงสร้างการกำกับดูแลและระบบการจัดการโดยเฉพาะเพื่อเป็นแนวทางในการมีส่วนร่วม ดังนี้

ระดับสายงาน ตัวแทนของ WHA Group หน้าที่และความรับผิดชอบ
ระดับผู้บริหาร (Executives) ผู้บริหารระดับสูง (C-level Executives)
  • เป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัทในการมีส่วนร่วมและสนับสนุนทิศทางเชิงกลยุทธ์ของสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจ
  • ดำรงตำแหน่งสมาชิกะดับสูง เช่น คณะกรรมการ เพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • นำวาระสำคัญร่วมกับสถาบันและสมาคมธุรกิจเพื่อนำเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของกลุ่มบริษัท เช่น หัวข้อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยี CCUS
ระดับผู้จัดการและพนักงาน (Management and Staff) สำนักงานความยั่งยืน หัวหน้าหน่วยธุรกิจ และสายงานที่เกี่ยวข้อง (Sustainability Office, Head of Business Units and Relevant Functions)
  • เข้าร่วมการประชุมและคณะกรรมการของสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจที่กลุ่มบริษัทเป็นสมาชิก
  • เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านช่องทางของสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจ
  • มีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกและสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ
  • ดำเนินการตามทิศทางและข้อตกลงจากระดับผู้บริหาร โดยนำข้อมูลที่ได้รับมาปรับใช้กับกลยุทธ์ภายใน
  • ติดตามความคืบหน้าและสถานะของโครงการและการพัฒนานโยบายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศทั้งภายในและภายนอก

ระบบการจัดการและกระบวนการของกลุ่มบริษัทในการประเมินสถาบันและสมาคมธุรกิจต่างๆ

ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน ธุรกิจดิจิทัล และธุรกิจโมบิลิตี้ กลุ่มบริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและส่งเสริมเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว กลุ่มบริษัทได้มีส่วนร่วมกับสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยกำหนดนโยบาย กฎระเบียบ และมาตรฐานอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์และความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน การมีส่วนร่วมนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนวาระแห่งความยั่งยืนของประเทศและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส (Paris Agreement)

กลุ่มบริษัทได้จัดทำกระบวนการที่ชัดเจนในการพิจารณา ทบทวน และประเมินการเป็นสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจ และการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของพันธมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัทและหลักการของความตกลงปารีส กระบวนการนี้รับรองได้ว่าความร่วมมือของกลุ่มบริษัทจะสนับสนุนความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการดำเนินงานและผลลัพธ์ เพื่อให้แน่ใจว่าการมีส่วนร่วมของกลุ่มบริษัทในสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศและเพื่อป้องกันความไม่สอดคล้องกัน ดังนั้น กลุ่มบริษัทได้ใช้กรอบการดำเนินงานที่ครอบคลุมสำหรับการทบทวน การติดตาม และการจัดการกับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การพิจารณาและทบทวน (Assessment and Reviewing)

กลุ่มบริษัทดำเนินการพิจารณาและทบทวนสมาชิกสถาบันและสมาคมธุรกิจที่คาดว่าจะเข้าร่วมและที่เป็นสมาชิกอยู่อย่างละเอียด โดยประเมินจากจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศ กิจกรรมและความมุ่งมั่นโดยรวม กระบวนการทบทวนนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าวัตถุประสงค์ของสถาบันและสมาคมธุรกิจเหล่านั้น สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ และการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท การตัดสินใจเข้าร่วมหรือคงสถานะสมาชิกภาพในสถาบันและสมาคมธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของความสอดคล้องที่ชัดเจนในด้านคุณค่าและเป้าหมาย และได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัท

การติดตาม (Monitoring)

สำหรับการเป็นสมาชิกในปัจจุบัน กลุ่มบริษัทจะติดตามกิจกรรมและจุดยืนของสถาบันและสมาคมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่ายังคงสอดคล้องกับนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัท กลุ่มบริษัทประเมินว่าการดำเนินการและผลลัพธ์ที่ได้นั้นสอดคล้องกับเป้าหมายที่ระบุไว้ ผลการติดตามจะถูกรายงานต่อผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความรับผิดชอบ โดยความคืบหน้าและสถานะความสอดคล้องของสถาบันและสมาคมธุรกิจจะได้รับการติดตามเป็นประจำ

กรอบการจัดการกรณีเกิดความไม่สอดคล้อง (Framework for Addressing Misalignments)

กลุ่มบริษัทได้ติดตามความคืบหน้าและจุดยืนสาธารณะของสถาบันและสมาคมธุรกิจที่เป็นพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร ในกรณีที่จุดยืนหรือกิจกรรมของสถาบันและสมาคมธุรกิจไม่สอดคล้องกับหลักการสำคัญของกลุ่มบริษัท ขั้นตอนแรกคือการเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงกับสมาคมฯ เพื่อแสดงจุดยืนและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจากภายใน หากยังคงมีความไม่สอดคล้องกันอย่างมีนัยสำคัญในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง กลุ่มบริษัทจะพิจารณาแสดงจุดยืนต่อสาธารณะว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับจุดยืนดังกล่าวเพื่อทำให้จุดยืนของกลุ่มบริษัทชัดเจน และในมาตรการสุดท้าย หากยังคงมีความไม่สอดคล้องขั้นพื้นฐานและต่อเนื่อง กลุ่มบริษัทจะประเมินการเป็นสมาชิกอีกครั้งและอาจตัดสินใจถอนตัวออกจากสถาบันและสมาคมธุรกิจที่เป็นพันธมิตร เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรของเราถูกจัดสรรให้กับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

จุดยืนและกิจกรรมด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศของสถาบันและสมาคมธุรกิจพันธมิตร

กลุ่มบริษัทเชื่อว่าความร่วมมือผ่านสถาบันและสมาคมธุรกิจมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่สำคัญในประเด็นท้าทายด้านความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือเหล่านี้สามารถสร้างข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์และสร้างเสียงที่เป็นหนึ่งเดียวในการสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของชุมชนที่กลุ่มบริษัทดำเนินงานอยู่

ในปี พ.ศ. 2567 กลุ่มบริษัทได้ร่วมมือกับสมาคมที่สำคัญ เพื่อสนับสนุนนโยบายและแนวปฏิบัติที่ส่งเสริมการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือที่สำคัญของกลุ่มบริษัท ได้แก่ การเป็นสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) และกลุ่มพันธมิตรด้านการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน แห่งประเทศไทย (TCCA) กลุ่มบริษัทได้ใช้เวทีเหล่านี้ในการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม พลังงานหมุนเวียน และการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อช่วยพัฒนาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและคาร์บอนต่ำสำหรับประเทศไทย

นโยบายที่เกี่ยวข้องของสถาบันและสมาคมธุรกิจที่เข้าร่วม

สถาบันและสมาคมธุรกิจ จุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศ การมีส่วนร่วมของ WHA GROUP ขอบเขตกิจกรรม

  • ส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการพัฒนากลไกตลาดคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ
  • สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและการริเริ่มลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น
  • ส่งเสริมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศที่มีประสิทธิภาพ
  • ในฐานะสมาชิก กลุ่มบริษัทมีส่วนร่วมในการเป็นผู้นำด้านการลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม กลุ่มบริษัทสนับสนุนวัตถุประสงค์ของเครือข่ายโดยการใช้พลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ ส่งเสริมธุรกิจโลจิสติกส์สีเขียวในนิคมอุตสาหกรรม และแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อช่วยเร่งการเดินทางสู่การปฏิบัติตามความตกลงปารีสเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
  • การพัฒนาตลาดคาร์บอน
  • ความเป็นกลางทางคาร์บอน
  • การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

  • สนับสนุนการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ในประเทศไทย
  • ส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และปรับใช้เทคโนโลยี CCUS โดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซได้ยาก
  • สนับสนุนการแบ่งปันความรู้และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนโครงการ CCUS
  • เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่น กลุ่มบริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเข้าร่วม Thailand CCUS Alliance และดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการของ TCCA ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม กลุ่มบริษัทมีบทบาทสำคัญในการประเมินความเป็นไปได้ของการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐาน CCUS ภายในนิคมฯ และมีส่วนร่วมในการหารือเชิงนโยบายเพื่อทำให้ CCUS เป็นแนวทางลดคาร์บอนที่เป็นไปได้สำหรับประเทศไทย
  • การดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS)
  • การลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม
  • การพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด
  • การสนับสนุนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ

การดำเนินงานด้านภาษีของบริษัท
บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านภาษี โดยยึดหลักความถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมายด้านภาษีที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดและสร้างความไว้วางใจให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตลอดจนมีแนวทางในการวางแผนภาษีและการปฏิบัติทางด้านภาษีให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับกลยุทธ์และเป้าหมายการประกอบธุรกิจของบริษัท
อ่านเพิ่มเติม
External Audit on Risk Management Processes
อ่านเพิ่มเติม
การต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่น
กลุ่มบริษัทฯ ยึดมั่นในการปลูกฝังพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อให้เกิดเป็นผลกระทบเชิงบวกในการดําเนิน ธุรกิจทุกภาคส่วน ทั้งนี้ การทุจริตและคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบนับว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ดังนั้นกลุ่มบริษัทฯ จึงได้จัดทําและทบทวนนโยบายต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่นให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อต่อต้านและป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง โดยนโยบายนี้มีผลครอบคลุมไปยังพนักงาน คู่ค้าผู้จัด จําหน่ายสินค้าบริการ ผู้รับเหมา บริษัทย่อย และบริษัทร่วมค้า (Joint Ventures)
อ่านเพิ่มเติม