5G Smart Ecosystem
ด้วยแนวโน้มการเติบโตทางด้านดิจิทัลและระบบสื่อสารไร้สายที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ระบบเชื่อมโยงที่ปลอดภัย มีความเสถียร รวดเร็วและเชื่อถือได้จึงเป็นปัจจัยพื้นฐานในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล กลุ่มบริษัท WHAID ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของเทคโนโลยียุคที่ 5 หรือ 5G ของระบบการสื่อสารไร้สาย ที่มีความสําคัญที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงมีประโยชน์และ สามารถนํามาใช้งานได้กับอุตสาหกรรมของกลุ่มลูกค้า
โดยกลุ่มบริษัท WHAID ได้รับใบอนุญาตเพื่อทําวิจัยและพัฒนาระบบ 5G (5G Sandbox) ในเขตเสรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นทําเลที่เหมาะสมอย่างมากต่อการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G และ IoT อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้ความพยายามดังกล่าวบรรลุผลสําเร็จ กลุ่มบริษัท WHAID ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ 4 ใน 5 บริษัทโทรคมนาคม รายใหญ่ของประเทศไทย อันได้แก่ เอไอเอส, ทรู คอร์เปอเรชั่น, ดีแทค และ กสท โทรคมนาคม โดยความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยให้แผนบริหารเครือข่าย 5G และคลื่นความถี่สามารถเกิดขึ้นได้ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ
ทั้งนี้ การนําระบบเครือข่าย 5G เข้ามาใช้งานจะช่วยให้ลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วฉับไว ลดความหน่วงเวลา และเพิ่มความเสถียรให้ระบบการสื่อสาร และช่วยให้การทํางานทางไกลมีความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างมากสําหรับองค์กรที่สนับสนุนเรื่องความยืดหยุ่นในการทํางาน นอกจากนี้ การมีเครือข่ายการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้จะส่งผลต่อการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของกลุ่มบริษัทฯ เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยี 5G ที่นํามาใช้ในเขตพื้นที่พิเศษไม่เพียงช่วยผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยเจริญก้าวหน้า แต่ยังช่วยดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศอีกด้วย


