แนวทางบริหารจัดการ
กลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 4 กลุ่มของกลุ่มบริษัทฯ นั้นขับเคลื่อนด้วยพันธสัญญาในการเป็น “The Ultimate Solution for Sustainable Growth” โดยมุ่งนําเสนอบริการที่หลากหลายครบวงจรให้กับลูกค้า
ซึ่งปัจจัยหลักสําคัญที่ทําให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถดําเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งนั้นได้แก่ การมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า บนทําเลที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งและกระจาย สินค้า รวมถึงการให้บริการที่ครอบคลุมตามความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร (one stop service solutions) ทั้งนี้ แนวคิดการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้านับเป็นกลยุทธ์ที่กลุ่มธุรกิจพัฒนาและจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Logistics) ของกลุ่มบริษัทฯ นํามาใช้บริการลูกค้าที่ต้องการเช่าคลังสินค้าหรือโรงงานอุตสาหกรรม โดยคลังสินค้าหรือโรงงาน อุตสาหกรรมที่ดังกล่าวถูกออกแบบมาโดยเฉพาะตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ภายใต้การออกแบบในระดับมาตรฐานสากล หรือที่เรียกว่าลักษณะโครงการ Built-to-Suit นอกจากนี้ในกลุ่มธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ซึ่งดําเนินงานภายใต้บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) ถือเป็นหนึ่งในผู้นําในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมชั้นนําของประเทศไทย โดยจําหน่ายที่ดินที่พัฒนาแล้วสําหรับการสร้างโรงงาน รวมถึงการให้เช่าโรงงานและคลังสินค้าสําเร็จรูปแก่ลูกค้า ทั้งนี้ด้วยความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร กลุ่มบริษัทฯ จึงได้ก่อตั้ง ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) และธุรกิจ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม (WHA Digital Platform) ขึ้น เพื่อนําเสนอ บริการด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนบริการด้านดิจิทัลให้แก่ลูกค้า ตามลําดับ โดยกลุ่มบริษัท WHAUP เป็นผู้ให้บริการผลิตและจัดหาน้ําเพื่ออุตสาหกรรมน้ําดิบ น้ําเพื่อผ่านกระบวนการผลิต (Process Water) และน้ําเพื่อกระบวนการผลิตปราศจากคลอรีน (Clarified Water) ให้แก่นิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงให้บริการด้านพลังงานเชื้อ เพลิงเชิงพาณิชย์ (Conventional) และพลังงานทดแทน นอกจากนี้ ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มยังถือเป็นอีกหนึ่งบริการครบวงจรด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยกลุ่มบริษัทฯ มีบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยบริการที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ กลุ่มบริษัท WHAID จึงถือเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมชั้นนําของประเทศไทย โดยถือส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งของธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นยกระดับประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าด้วย การปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง ตามพันธสัญญาของกลุ่มบริษัทฯ ในการเป็น “The Ultimate Solution for Sustainable Growth” เพื่อรักษาตําแหน่งผู้นําในตลาด
การดําเนินธุรกิจในแต่ละกลุ่มธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ได้ผ่านการออกแบบและวางกลยุทธ์มาอย่างถี่ถ้วนเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เพราะฉะนั้น ความคิดเห็น ของลูกค้าและความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับลูกค้าจึงถือเป็นปัจจัยที่สําคัญยิ่งและมีการบริหารจัดการในระดับองค์กร โดยกลุ่มบริษัทฯ มีระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ซึ่งใช้เป็นฐาน ข้อมูลมาตรฐานส่วนกลางในการจัดเก็บและบริหารจัดการข้อมูลและความต้องการของลูกค้าในทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ
โดยในช่วงปลายปี 2564 กลุ่มบริษัทฯ ได้ริเริ่มใช้งานระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM system) ซึ่งช่วยให้สามารถตอบสนองต่อ ความต้องการของลูกค้าได้ภายในเวลาที่กําหนดและมีประสิทธิภาพ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาไปสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ของกลุ่มบริษัทฯ แอปพลิเคชันดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับความสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้าง ประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานของพนักงานของกลุ่มบริษัทฯ และลดขั้นตอนการทํางานที่ไม่จําเป็น รวมถึงการลดโอกาสเกิดความผิดพลาดให้น้อยลง ตลอดจนให้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยําและเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ การจัดทําฐานข้อมูลในระบบดังกล่าว จะช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งสามารถช่วยให้การบริหารจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์และการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อให้การสื่อสารกับลูกค้ามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กลุ่มบริษัทฯ ยังได้จัดทําวารสาร WHA Connect เป็นรายไตรมาส สําหรับประชาสัมพันธ์ข่าวสารเกี่ยวกับบริษัท กิจกรรมต่างๆ โครงการอบรม และกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งเป็นช่องทางและวิธีการสื่อสารที่เข้าถึงได้ง่าย สื่อสารข้อมูลได้ถูกต้องครบถ้วน และ ใช้งานได้สะดวกสําหรับลูกค้าของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ อีกทั้ง กลุ่มบริษัทฯ ยังเสริมประสิทธิภาพของการสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) ด้วยการเข้าเยี่ยมลูกค้า รวมถึงการติดต่อทางโทรศัพท์และอีเมลอย่างสม่ำเสมอ โดยได้มีการกําหนดบุคคลที่เป็นผู้ติดต่อหลักเพื่อดูแลลูกค้าในกรณีที่มีข้อกังวลหรือคําร้องขอ และจัดตั้งระบบจัดการข้อร้องเรียน ฯลฯ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะเปิดรับข้อคิดเห็นหรือข้อร้องเรียนผ่านช่องทางการสื่อสารประเภทต่างๆ ที่จัดไว้ให้ และดําเนินการตรวจสอบตามระเบียบการปฏิบัติงานการจัดการเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าและชุมชนของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งนี้ เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน ผู้จัดการฝ่ายของกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะได้รับแจ้งข้อมูล และมีการแต่งตั้งพนักงานที่มีความรู้ความชํานาญให้ดําเนินการสืบสวน รายงานข้อมูล รวมถึงบันทึกรายละเอียดลงในเอกสาร จากนั้น จึงนําเรื่องร้องเรียนและความคืบหน้าของมาตรการแก้ไขรายงานต่อคณะกรรมการคุณภาพในการประชุมทบทวนฝ่ายบริหารซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 1 ปี
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทําให้เกิดข้อจํากัดในการเดินทาง ลูกค้าที่สนใจจึงไม่สามารถมาเยี่ยมชมสถานที่จริงได้ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มบริษัทฯ จึงได้นําเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหา เช่น การประชุมทางไกล และจัดทําระบบเสมือนจริง สําหรับเยี่ยมชมบริษัท ตลอดจนการใช้ MS Team, Zoom, WeChat, Line ในการประชุมและช่วยเหลือลูกค้าในกรณีที่มีข้อกังวล รวมถึงหารือเรื่องกระบวนการจัดซื้อที่ดิน สัญญาซื้อขาย และสัญญาเช่า ทั้งยังจัดการประชุมออนไลน์ในระบบภาพเสมือนจริงกับลูกค้าเป้าหมายในต่างประเทศ ซึ่งยังไม่สามารถเดินทางมาที่ประเทศไทยได้ เนื่องด้วยนโยบายห้ามเดินทางเข้าประเทศในขณะนั้น การประชุมออนไลน์จึงช่วยให้สามารถติดต่อหารือกับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศได้พร้อมๆ กัน นอกจากนี้ ยังจัดให้มีระบบภาพเสมือนจริง 360 องศาในเว็บไซต์ของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสามารถชมภาพนิคมอุตสาหกรรมที่ดินที่พัฒนาแล้ว อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า และอสังหาริมทรัพย์ที่เสนอขายได้อย่างละเอียด ทั้งนี้ด้วยนวัตกรรมดังกล่าวช่วยให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการเติบโตทางธุรกิจ และการสร้างความเชื่อมั่นในบริการของบริษัท ตลอดจนการรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม