ไทย อินาบะ ฟูดส์ ขยายลงทุนในนิคม WHA สระบุรี เปิดโรงงานผลิตอาหารแห่งที่ 4 เชื่อมั่นอุตสาหกรรมอาหารคุณภาพสูงจากไทยเติบโตสูงในตลาดญี่ปุ่นและทั่วโลก

บริษัท ไทย อินาบะ ฟูดส์ จำกัด ผู้ผลิตอาหารพร้อมรับประทานและอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับโลก จัดพิธีเปิดโรงงานแห่งที่ 4 อย่างเป็นทางการ ณ เขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี (WHA Saraburi Industrial Land หรือ WHA SIL) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากนายนิชิโอกะ ทัตสึชิ อัครราชทูตประจำสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน

การลงทุนมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทครั้งนี้ นอกจากเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นอันแข็งแกร่งของไทย อินาบะ ฟูดส์ ที่มีต่อศักยภาพของ WHA Industrial Development ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นต่อประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตและส่งออกอาหารระดับโลก พร้อมประกาศแผนการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 5 ในอนาคตอันใกล้

นายอะซึฮิโร อินาบะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินาบะ จำกัด กล่าวว่า "การขยายการลงทุนครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของเรา เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก โรงงานแห่งใหม่นี้จะเพิ่มกำลังการผลิตของเรากว่า 150% และนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพระดับสูงสุดที่ลูกค้าคาดหวังจากแบรนด์ของเรา"

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การเปิดโรงงานแห่งใหม่ของไทย อินาบะ ฟูดส์ ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความสำเร็จของความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง WHA และนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของก้าวสำคัญนี้ และพร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมเพื่อสร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจ 'WHA: WE SHAPE THE FUTURE' เพื่อร่วมขับเคลื่อนอนาคตที่ดีให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม"

ด้านนายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (WHAID) เสริมว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ไทย อินาบะ ฟูดส์ ไว้วางใจเลือก พื้นที่ WHAID ในจังหวัดสระบุรี เป็นฐานการผลิตหลักมายาวนานกว่า 10 ปี นับเป็นสิ่งยืนยันถึงความเชื่อมั่นต่อแนวทางการพัฒนา 'นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ' (SMART ECO Industrial Estates) ของ WHA ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมอาหาร ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน ไปจนถึงการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยเขตประกอบการอุตสาหกกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี (WHA SIL) มีพื้นที่ทั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 3,619 ไร่ ตั้งอยู่ที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี มีจุดเด่นคือห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 70 กิโลเมตร และที่สำคัญคือ WHA SIL ตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้แหล่งวัตถุดิบคุณภาพสูง ทั้งจากภาคเกษตรกรรมในจังหวัดสระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เชื่อมโยงกับซัพพลายเชนอาหารทะเลจากจังหวัดชายฝั่ง ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงวัตถุดิบสดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหนือชั้น"

สำหรับ WHA SIL ดังกล่าวนั้น ได้รับการตอบรับการลงทุนเต็มพื้นที่แล้ว และทางบริษัทฯมีแผนในการขยายโครงการใหม่ เป็นนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี 2 (WHA SIL 2) โดยมีพื้นที่ประมาณ 2,511 ไร่ ซึ่งจะมีการนำระบบ SMART ECO FRAMEWORKS ทั้ง 6 ด้าน มาพัฒนาให้เป็นนิคมฯเชิงนิเวศอัจฉริยะ พร้อมโครงสร้างพื้นฐานในระดับมาตรฐานสากล และนอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมในเรื่องของพลังงานสีเขียวและพลังงานทดแทนมาให้บริการกับลูกค้าอีกด้วย

ไทย อินาบะ ฟูดส์ : บทพิสูจน์ความเชื่อมั่นในระบบนิเวศอุตสาหกรรมอาหารของไทย

จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 220 ปีในญี่ปุ่น การตัดสินใจของ ไทย อินาบะ ฟูดส์ ในการเปิดโรงงานแห่งที่ 4 และวางแผนก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 5 บนพื้นที่ของเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี (WHA SIL) สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งของระบบนิเวศอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทย

ไทย อินาบะ ฟูดส์ ได้ขยายกำลังการผลิตสู่ประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารจากญี่ปุ่นสู่สากล การลงทุนครั้งล่าสุดนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถสร้างงานให้กับแรงงานในท้องถิ่นได้อีกกว่า 1,500 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในจังหวัดสระบุรี

ปัจจุบัน เขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี (WHA SIL) เป็นศูนย์รวมของคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่แข็งแกร่งของประเทศ โดยมีสัดส่วนลูกค้าในกลุ่มนี้สูงถึง 30% ของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดของ WHA ทั่วประเทศ และยังมีจุดแข็งสำคัญคือการมีโรงงานผลิตน้ำอุตสาหกรรมในพื้นที่ ซึ่งสามารถจัดหาน้ำคุณภาพสูงที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการมาตรฐานสุขอนามัยสูงสุด

เจาะลึกนโยบายเชิงรุก ขับเคลื่อนไทยสู่ "Future Food Hub" ของ BOI

ไทย อินาบะ ฟูดส์ ขานรับนโยบายสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่มีมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างจริงจัง รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารทางการแพทย์ และการแปรรูปอาหารสัตว์เลี้ยง

นโยบายดังกล่าวนอกจากเสนอสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและการยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักรแล้ว ยังสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และการส่งออก ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

การลงทุนจากญี่ปุ่น: รากฐานความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และศักยภาพอาหารไทยในเวทีโลก

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โครงการลงทุนจากญี่ปุ่นยื่นขอรับการส่งเสริมจาก BOI มีมูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง ลูกค้านักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นกลุ่มที่สำคัญสำหรับ WHAID สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นและยาวนานระหว่างสองประเทศ

ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญและน่าดึงดูดใจ ด้วยทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน แรงงานที่มีทักษะ และความอุดมสมบูรณ์ด้านเกษตรกรรมและปศุสัตว์ สิ่งเหล่านี้สร้างซัพพลายเชนที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตอาหารคุณภาพสูง

แม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความท้าทายและนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ประเทศไทยยังคงยืนหยัดในฐานะศูนย์กลางการผลิตมาตรฐานสูงและการส่งออกที่มีประสิทธิภาพ ด้วยความยืดหยุ่นและนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เอื้ออำนวย

"โรงงานแห่งใหม่นี้จะเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตล่าสุดและมาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสูงสุด เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมสู่ผู้บริโภคทั่วโลก" นายอะซึฮิโร กล่าวเสริม

การเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ของไทย อินาบะ ฟูดส์ จึงถือเป็นอีกความสำเร็จในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งในเวทีโลก และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

การขยายการลงทุนของ ไทย อินาบะ ฟูดส์ ในครั้งนี้ ไม่เพียงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมอาหารของไทย แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จระหว่างนักลงทุนต่างชาติและพันธมิตรในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน