LONGEVITY

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

Longevity หรือศาสตร์แห่งการมีอายุยืนยาวเป็นแขนงวิชาที่มุ่งค้นคว้าและพัฒนาวิธีการเพื่อยืดอายุขัยของมนุษย์ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เมื่อคนยุคใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ศาสตร์สาขานี้จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางและทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

Longevity Science หรือวิทยาศาสตร์การมีชีวิตที่ยืนยาวโดยคำจำกัดความแล้วหมายถึง การศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชราภาพ (Aging Process) เช่น การเสื่อมสภาพของเซลล์ที่เกิดจากความเสียหายของ DNA หรือการเสื่อมสภาพของไมโทคอนเดรีย ร่วมกับการพัฒนาวิธีการที่จะชะลอ (Anti-Aging) หรือย้อนกลับ (Reverse Aging) กระบวนการดังกล่าว เช่น การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) ฯลฯ ตลอดจนการป้องกันหรือรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง ภาวะสมองเสื่อม โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มอายุขัย (Lifespan) และช่วงชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ (Healthspan) ของมนุษย์ให้นานที่สุด

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากรที่สำคัญโดยมีแนวโน้มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ เมื่อประกอบกับความก้าวหน้าด้านการสาธารณสุขที่ส่งผลให้ประชากรไทยมีอายุยืนยาวขึ้นจึงนับเป็นโอกาสอันดีในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจ Longevity และการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร

(1) อุตสาหกรรมการแพทย์ ประเทศไทยมีบุคลากรจำนวนมากที่มีความรู้ทางด้านการแพทย์และทักษะการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการมีชีวิตที่ยืนยาว เช่น การพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ขั้นสูงหรือวิธีการรักษาหรือนวัตกรรมในยาเพื่อช่วยชะลอหรือย้อนกลับกระบวนการชราภาพ รวมถึงการมีบุคลากรที่มีองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่เน้นการรักษาสมดุลของร่างกายและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

(2) อุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการ ประเทศไทยสามารถใช้จุดเด่นด้านความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นจากพื้นฐานสังคมเกษตรกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น พืชตระกูลถั่วสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอล ผักและผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยสร้างภูมิต้านทาน หรือสารสกัดจากสมุนไพรสามารถช่วยลดอาการอักเสบ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงสมอง เป็นต้น

(3) อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ประเทศไทยสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการของประชากรสูงวัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต อาทิ การนำเทคโนโลยี IoTs มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้สูงอายุ เช่น อุปกรณ์ช่วยชีวิตอัจฉริยะ หรือการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น ข้อมูลพันธุกรรมและพฤติกรรมของผู้ป่วยเพื่อจัดทำแผนการรักษาที่เหมาะสมและแม่นยำสำหรับแต่ละบุคคล (Personalized Medicine)

(4) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลกจึงสามารถต่อยอดไปสู่การเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เช่น การส่งเสริมการอยู่อาศัยภายหลังเกษียณ การจัดโปรแกรมดูแลสุขภาพหรือฟื้นฟูร่างกายระยะยาว เป็นต้น

Longevity นับเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ซึ่งประเทศไทยเองก็มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจดังกล่าวทั้งจากจุดเด่นทางการแพทย์ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ พื้นฐานสังคมเกษตรกรรม ความหลากหลายและทรัพยากรธรรมชาติ ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่นอกจากจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงแล้ว ยังสามารถช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างทางสังคมของประเทศไปพร้อมๆ กันอีกด้วย