SUSTAINABLE CONSTRUCTION

คุณจรีพร จารุกรสกุล

ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

อุตสาหกรรมก่อสร้างถือเป็นเสาหลักของการพัฒนาประเทศ การเติบโตของประชากรและการขยายตัวของเขตเมืองอย่างรวดเร็วทำให้ความต้องการพื้นที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก International Energy Agency หรือ IEA เปิดเผยถึงปริมาณการใช้พลังงานของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างและอาคารว่าคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 36 ของการใช้พลังงานทั้งโลก รวมถึงอาคารและอุตสาหกรรมก่อสร้างยังเป็นต้นเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมกันกว่าร้อยละ 40 ของการปล่อย CO₂ ทั้งหมด ตลอดจนอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นภาคส่วนที่มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติร้อยละ 32 ของการใช้ทรัพยากรรวมทั้งหมด และเป็นแหล่งกำเนิดขยะมูลฝอยคิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั่วโลกอีกด้วย ปัจจุบันอุตสาหกรรมก่อสร้างจึงกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญจากกระแสความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่ทวีความเข้มข้น และจำเป็นต้องคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ

แนวคิดการก่อสร้างอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Construction จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ อาทิ การใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรและยั่งยืน โดยการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรหรือปล่อยมลพิษน้อยตลอดวงจรชีวิต อาทิ คอนกรีตและเหล็กรีไซเคิล หรือนวัตกรรมบล็อกอาคารที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ขนสัตว์และดินเหนียว ฯลฯ การเลือกใช้ไม้จากแหล่งผลิตที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่สามารถผลิตได้ในท้องถิ่น หรือวัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงาน เช่น กระจกและฉนวนกันความร้อนประสิทธิภาพสูง การออกแบบที่คำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน (Flexible Design) เช่น ระบบโมดูลาร์ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนส่วนประกอบต่างๆ ของอาคารได้ง่าย หรือการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้งานได้หลากหลายและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละช่วงเวลาที่จะสามารถช่วยลดการรื้อถอนและขยะจากการก่อสร้างในระยะยาวได้

การก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงานและการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เช่น การติดตั้งระบบพลังงานทดแทน ระบบรีไซเคิลหรือเทคโนโลยีประหยัดน้ำเพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่า การจัดการของเสียจากการก่อสร้างตั้งแต่กระบวนการวางแผนและออกแบบโครงการก่อสร้าง เช่น การใช้เทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM) เพื่อคำนวณปริมาณวัสดุอย่างแม่นยำ ช่วยลดความสูญเปล่าและการสั่งซื้อวัสดุเกินความจำเป็น เป็นต้น

แนวคิดการก่อสร้างอย่างยั่งยืนนอกจากจะช่วยเกื้อกูลสิ่งแวดล้อมผ่านการให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุและแนวทางการก่อสร้างและออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว Sustainable Construction ยังเป็นกุญแจไปสู่ความเจริญทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคม เมื่อผู้ประกอบการนำแนวคิดการก่อสร้างอย่างยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในแง่การประหยัดต้นทุนการดำเนินงาน ยืดอายุการใช้งานของโครงสร้าง และเพิ่มมูลค่าให้แก่ทรัพย์สิน รวมถึงอาคารสิ่งก่อสร้างที่ออกแบบตามแนวคิดความยั่งยืนก็จะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการอยู่อาศัยและการทำงานอย่างมีสุขภาวะ ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นในระยะยาว

การก่อสร้างที่ยั่งยืนกำลังกลายเป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากภาวะโลกร้อนและมลพิษที่เพิ่มขึ้นตอกย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของปัจจุบันแต่ยังคำนึงถึงผลกระทบในอนาคต ความร่วมมือของทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งการสร้างความตระหนักรู้และความจำเป็นเร่งด่วน ตลอดจนการกำหนดนโยบายที่เอื้อต่อการเปลี่ยนผ่าน และมาตรการสนับสนุนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการนำไปปฏิบัติและบังคับใช้จริง